ตามกฎหมายกำหนดว่า “การขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นมรดกแม้จะได้รับมาจากพินัยกรรมก็ตาม จะต้องเสียภาษีเหมือนกับการขายอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ” เพื่อเปลี่ยนทรัพย์สินให้เป็นเงินสด หรือนำไปซื้อใหม่ หรือเพื่อนำเงินสดที่ได้ไปลงทุนก็ตาม ถือว่าผู้ครอบครองมีรายได้จากการขาย จึงต้องถูกเรียกเก็บภาษีตามกฎหมายบังคับ โดยภาษีที่จะต้องเสียมีทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ค่าอากรแสตมป์ และค่าธรรมเนียมการโอน ซึ่งผู้ขายสามารถคำนวณได้ง่ายๆด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. วิธีการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
เงินได้สุทธิตั้งแต่ |
ช่วงเงินได้สุทธิตามขั้น |
อัตราภาษี |
0 – 300,000 |
300,000 |
5 |
300,001 – 500,000 |
200,000 |
10 |
500,001 – 750,000 |
250,000 |
15 |
750,001 – 1,000,000 |
250,000 |
20 |
1,000,001 – 2,000,000 |
1,000,000 |
25 |
2,000,001 – 5,000,000 |
2,000,000 |
30 |
ตั้งแต่ 5,000,001 ขึ้นไป |
|
35 |
ตัวอย่างตารางแสดงจำนวนอัตราภาษีเงินได้เงินได้บุคคลธรรมดา
วิธีการคำนวณ
ตัวอย่าง ผู้ถือครองได้รับอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดกหรือได้โดยเสน่หา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2555 และได้ขายออกไปเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2560 เท่ากับถือครองมา 5 ปี ราคาบ้านที่ขายอยู่ที่ 6 ล้านบาท ซึ่งมีราคาประเมินที่ 5 ล้านบาท
(1) ราคาประเมิน 5,000,000 บาท – ค่าใช้จ่ายแบบเหมา 50% = 2,500,000 บาท
(2) 2,500,000 ÷ ปีทีถือครอง 5 ปี = เงินได้สุทธิ 500,000 บาท
(3) จากนั้นคำนวณภาษีตามช่วงเงินได้ตามขั้น (ตัวอย่างในตาราง)
(300,000 × 5%) + (200,000 × 10%) = 35,000 บาท
(4) การหักภาษี ณ ที่จ่ายเท่ากับ 35,000 × ปีที่ถือครอง 5 ปี = 175,000 บาท
จากการคำนวณผู้ขายอสังหาริมทรัพย์มรดก จะต้องเสียภาษีที่จำนวนเงิน 175,000 บาท แต่หากอสังหาริมทรัพย์มรดกที่ขาย อยู่นอกเขตกรุงเทพมหานคร สุขาภิบาล เมืองพัทยา หรือการปกครองท้องถิ่น จะได้รับยกเว้นเงินได้ 200,000 บาท เหลือเท่าไหร่ค่อยหักค่าใช้จ่ายแบบเหมาอีก 50%
ทั้งนี้ การหักภาษี ณ ที่จ่ายจากการขายอสังหาริมทรัพย์มรดก จะไม่มีการยกเว้นภาษีเงินได้สุทธิเกิน 150,000 บาท ถึงแม้ฐานภาษีที่นำมาใช้ในการคำนวณจะเหมือนกับ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ก็ตาม และตามกฎหมายกำหนดให้หักได้ไม่เกิน 20% ของราคาขาย ดังนั้นในกรณีตัวอย่างต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่ายตามผลลัพท์ที่ได้
นอกจากนี้ ผู้มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์มรดก สามารถยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีแบบยื่นรวม หรือแยกยื่นก็ได้ แต่ส่วนใหญ่มักใช้วิธีแยกยื่น เพราะข้อดีคือไม่ต้องนำมารวมกับรายได้ประจำเพื่อเสียภาษีประจำปีอีกด้วย
2. ค่าอากรแสตมป์
การขายอสังหาริมทรัพย์มรดกหรือได้รับด้วยความเสน่หา ตามกฎหมายกำหนดให้เสียค่าอากรแสตมป์ในอัตรา 0.5% ของราคาขายหรือราคาประเมิน(ให้ยึดจากราคาที่มีมูลค่าสูงสุด) โดยไม่ต้องเสียค่าภาษีธุรกิจเฉพาะ
ค่าอากรแสตมป์ = 0.5% × 6,000,000 = 30,000 บาท