วันนี้เราจะมารีวิวโครงการ Noble Around Ari คอนโดมิเนี่ยมย่านกลางเมืองแห่งใหม่ติดกับรถไฟฟ้าอารีย์กัน โดยล่าสุดทางด้าน Noble Development ได้เปิดตัวคอนโดมิเนี่ยมล่าสุดโดยเน้นจุดเด่นด้านการออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Timeless Design ที่ได้รับอิทธิพลมาจากงานออกแบบยุคโมเดิร์นอย่าง Ludwig Mies Van Der Rohe สถาปนิกชื่อดังชาวเยอรมัน ซึ่งถือเป็นผู้บุกเบิกสถาปัตยกรรมแนว Modernism โดยใช้โครงสร้างที่้เรียบหรู และเน้นไปที่ควาสมดุล โดยตั้งอยู่บนทำเลย่านอารีย์ ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีอารีย์ ห่างกันเพียง 90 เมตร โดยราคาเริ่มต้นเพียงแค่ 5.8 ล้านบาท โดยทางคุณศิระ อุดล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิลดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดตัวคอนโด โนเบิล อราวน์ อารีย์ ในโครงการคอนโดมิเนี่ยมกลางเมืองแห่งใหม่ โดยย่านอารีย์ถือเป็นทำเลที่ตั้งที่มีศักยภาพ และยังเป็นการผสมผสานระหว่างย่านผู้ดีเก่า กับย่าน Central Business District เข้าด้วยกัน โดยยังมีที่ตั้งของหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนอีกหลายแห่งอีกด้วย โดยโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำก็ตั้งอยู่ในเขตนี้ และเขตอารีย์ได้เปลี่ยนภาพลักษณ์เป็นย่าน Hipster และแหล่งศูนย์รวม sub culture ใหม่ๆ อีกด้วย จนถูกพัฒนาให้เป็น Lifestyle & Hangout District ที่น่าสนใจ โดยปัจจัยที่ทำให้บริษัทต่างๆ เลือกพื้นที่อารีย์มาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนี่ยม ก็เพราะเหตุผลเหล่านี้ และหนึ่งในนั้นคือโครงการ โนเบิล อราวน์ อารีย์ (Noble Around Ari) ที่เน้นการเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้พักอาศัยสมัยใหม่นั่นเอง
คงจะได้ทราบข้อมูลคร่าวๆ กันไปแล้วสำหรับโครงการ Noble Around Ari คอนโดมิเนี่ยมย่านกลางเมืองแห่งใหม่ติดกับรถไฟฟ้าอารีย์ โดยทางโนเบิล อราวน์ อารีย์นั้นนับเป็นโครงการที่ 5 ของทางโนเบิล ที่เปิดตัวในย่านนี้ และตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพสูงอย่างอารีย์ ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่า ย่านอารีย์นั้น เป็นทำเลที่สะท้อนความเป็นโนเบิลอีกด้วยเช่นกัน โดยทั้ง 4 โครงการก่อนหน้านี้ประกอบไปด้วย โนเบิล ไลท์ (Noble Lite), โนเบิล รีเฟลกซ์ (Noble Reflex), โนเบิล รีดี (Noble Re:D) และ โนเบิล รีฟอร์ม (Noble Reform) ทำให้โครงการ Noble Around Ari ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในทุกๆ โครงการในไลฟ์สไตล์กลางใจเมืองที่มีทั้งความสงบร่มรื่น ความเป็นส่วนตัว ที่แวดล้อมไปด้วยร้านค้ารับรองไลฟ์สไตล์ของคนทั้งสอง generation โดยทางโครงการ Noble Around Ari คาดการณ์ว่าจะสร้างในเดือนมกราคม 2562 และแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2565